คู่มือการตรวจสอบคุณภาพ (QA)
การเข้าสู่เครื่องมือ QA
- เมื่อคุณแก้ไขเมตาดาต้าของเกมเสร็จแล้ว และอัปโหลดไฟล์เกม .zip เรียบร้อย ให้เข้าสู่หน้า “ใช้ QATool เพื่อพรีวิว” เพื่อเข้าสู่หน้าต่างเครื่องมือ QA
แนะนำหน้าต่าง QA
- ด้านซ้ายคือหน้าต่างจำลองการรันเกม โดยด้านบนสามารถสลับการจำลองการแสดงผลบน PC หรืออุปกรณ์มือถือ
- ด้านซ้ายล่างคือบันทึก log ที่พิมพ์จากการทำงานของ SDK ของเกม
- ด้านขวาคือการตั้งค่าและรายการทดสอบ
เมนูเครื่องมือ - ตัวเลือก
การตั้งค่าเกม หากต้องการแก้ไขการตั้งค่า ต้องกดปุ่ม Modify ด้านขวาก่อนจึงจะสามารถแก้ไขได้
- หากเกมของคุณไม่ต้องการรองรับการทำงานบนอุปกรณ์ IOS สามารถยกเลิกการเลือก “รองรับเบราว์เซอร์ IOS” ได้
- เลือกทิศทางหน้าจอเมื่อเกมรัน:
- PORTRAIT:เกมรองรับเฉพาะแนวตั้ง
- LANDSCAPE:เกมรองรับเฉพาะแนวนอน
- BOTH:เกมสามารถปรับได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
- อัตราส่วนหน้าจอวิดีโอเกม:
- 16:9 -> แนะนำให้ใช้เป็นค่าเริ่มต้น
- 21:9 -> จะมีแถบดำด้านข้าง หากไม่ใช่เกมมือถือที่ออกแบบมารองรับสัดส่วนนี้ แนะนำว่าไม่ควรเลือก
- 4:3 -> เหมาะสำหรับเกม PC เก่า หรือ TV-Game แบบคลาสสิก
- Auto -> หากเกมของคุณสามารถปรับจาก 4:3 ไปถึง 21:9 ได้ (UI ของเกมออกแบบรองรับการยืดตาม anchor) แนะนำเลือกตัวเลือกนี้เพื่อให้ประสบการณ์ผู้ใช้ดีที่สุด
- รันบนอุปกรณ์จริง: คลิกปุ่มนี้เพื่อแสดง QR Code ใช้มือถือสแกนเพื่อทดสอบเกมบนมือถือ
เมนูเครื่องมือ - จำลองผู้ใช้
- หากเกมของคุณต้องการทดสอบผู้ใช้ต่าง ๆ ที่แสดงผลแตกต่างกัน หรือสลับผู้ใช้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต่างกัน คุณสามารถเพิ่มสมาชิกทีมใน backend นักพัฒนา จากนั้นที่นี่สามารถสลับบัญชีเพื่อจำลองผู้ใช้ต่าง ๆ รันเกม
- การจำลองสภาพแวดล้อมจริง: เมื่อเลือกแล้วจะใช้กลไกการตรวจสอบผู้ใช้จริง
เมนูเครื่องมือ - แถบด้านข้าง
- ตัวเลือกการแสดงผลเกมปกติ: เนื่องจากแพลตฟอร์มอาจตรวจสอบไม่ได้ว่า UI ของเกมแสดงปกติหรือไม่ หากคุณมั่นใจว่าเกมแสดงผลถูกต้อง ให้เลือก “ใช่”
- ด้านล่างเป็นการทดสอบการเรียกใช้งาน API ของ SDK โปรดทดสอบโดยการเล่นภายในเกม เช่น หากคุณใช้ API โฆษณา ให้กดโฆษณาภายในเกมเพื่อตรวจสอบว่า API โฆษณาทำงานได้จริง
เมนูเครื่องมือ - เครื่องมือควบคุม
- ก่อนใช้งานเครื่องมือนี้ ต้องเริ่มเกมก่อน สามารถแก้ไขได้ระหว่างที่เกมกำลังรัน
- เลือกวิธีให้คอนโทรลเลอร์ตามการย่อขยายหน้าจอ:
- ตามความกว้าง: ยืดตามความกว้างของเกมเพื่อปรับตำแหน่งปุ่มเสมือน
- ตามความสูง: ยืดตามความสูงของเกมเพื่อปรับตำแหน่งปุ่มเสมือน
- อัตราส่วนคงที่: ยืดตามอัตราส่วนของเกมเพื่อปรับตำแหน่งปุ่มเสมือน
PC ปรับเข้ากับมือถือ
- หากเกมของคุณเดิมเป็นเกม PC ที่พอร์ตมาลงมือถือ แต่ไม่อยากทำปุ่มเสมือนเฉพาะ ให้ใช้เครื่องมือนี้
- ปุ่มเสมือนพื้นฐาน:
- คลิก (หรือ ลากไปที่หน้าต่างเกม) ปุ่มเสมือนใด ๆ เพื่อสร้างปุ่มเสมือน
- สามารถกำหนด Key ของคีย์บอร์ดใด ๆ เพื่อแมปกับการกด Key ในเกม
- ปุ่มพิเศษที่ไม่สามารถแก้ไข Key ได้:
- ปุ่มทิศทาง (D-pad): แมปกับปุ่มลูกศร ↑←↓→ และรองรับการกดพร้อมกันของทิศทางที่ติดกัน
- ปุ่ม 8 ทิศทาง: แมปกับปุ่ม WASD ที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนที่ในเกมส่วนใหญ่
- L-stick: ใช้จำลองการเล็งของเมาส์ในเกม FPS
- Scroll wheel: จำลองการหมุนของล้อเมาส์
- ปุ่มเมาส์ซ้ายและขวา: จำลองการกดปุ่มเมาส์ซ้ายหรือขวา
มือถือปรับเข้ากับ PC
- หากเกมของคุณเดิมเป็นเกมมือถือที่พอร์ตมาลง PC แต่ไม่อยากทำการปรับให้รองรับคีย์บอร์ดและเมาส์โดยเฉพาะ ให้ใช้เครื่องมือนี้
- ก่อนอื่นตรวจสอบว่าเกมของคุณสามารถรันบน PC ได้หรือไม่: เนื่องจากบางเกมมือถือใช้ event การสัมผัสแทนการคลิก ดังนั้นให้ทดสอบโดยรันเกมทางด้านขวา หากการคลิกปุ่มและลากวัตติภายในเกมทำงานปกติ ให้เลือก หากรันบน PC แล้วไม่สามารถคลิกหรือลากได้ ให้ไม่เลือก ตัวปรับจะจัดการให้ตามตัวเลือกที่เลือกไว้
- ปุ่ม single-click: สามารถกำหนด Key ของคีย์บอร์ดใด ๆ ผู้ใช้กด Key นี้เท่ากับคลิก 1 ครั้งที่ตำแหน่งนั้น
- ปุ่มทิศทาง: กำหนดปุ่มทิศทางคีย์บอร์ด 4 ทิศทาง และรองรับการกดพร้อมกัน ใช้แทน virtual joystick ของมือถือ
- ปุ่มเมาส์ซ้าย/ขวา: ผู้ใช้กดเมาส์ซ้าย/ขวา เท่ากับคลิก 1 ครั้งที่ตำแหน่งนั้น
- การหมุนมุมมองด้วยเมาส์: บางเกมมือถือให้ผู้เล่นลากหน้าจอเพื่อหมุนมุมมอง ให้วางวงกลมนี้ครอบตำแหน่งการควบคุมในเกมมือถือ เพื่อจำลองการเคลื่อนไหวของเมาส์ให้เลื่อน/หมุนมุมมอง
- หมายเหตุ: การใช้ปุ่ม event ต้องระบุตำแหน่ง UI ปุ่ม/พื้นที่สัมผัสของเกมมือถืออย่างแม่นยำ
พารามิเตอร์ของอแดปเตอร์
ตัวบ่งชี้ตำแหน่ง: แสดงตำแหน่งปัจจุบันบนหน้าจอ คุณสามารถปรับตำแหน่ง “ปุ่ม” นี้ และ anchor ของแกนได้ คำอธิบายอินพุต: ต้องมีคำอธิบายปุ่มนี้อย่างน้อยเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายว่าปุ่มนี้ใช้ทำอะไรในเกม (เช่น: กด R เพื่อยิง) หากเกมรองรับหลายภาษา คำอธิบายปุ่มควรมีหลายภาษาด้วยเช่นกัน
ข้อควรระวังอื่น ๆ:
- Unity: ต้องใช้ค่าพารามิเตอร์เริ่มต้นของ SDK เพื่อให้มั่นใจว่าเกมจะหยุดชั่วคราวอัตโนมัติเมื่อสูญเสียโฟกัส และปิดเสียงอัตโนมัติเมื่อเล่นโฆษณา เว้นแต่คุณจะมีระบบจัดการเสียง/หยุดเอง
- Cocos: ใช้ SDK ล่าสุด เกมจะหยุดอัตโนมัติและปิดเสียงเมื่อสูญเสียโฟกัสหรือเล่นโฆษณา
- เอนจินอื่น ๆ: นักพัฒนาต้องจัดการให้เกมหยุดเวลาจริงเมื่อเรียก API “หยุดเกม” และปิดเสียง รวมถึงต้องคืนค่าเวลาและเสียงกลับเมื่อเรียก API “เริ่มเกม”